ประวัติโดยย่อของการพัฒนา CT:
1) ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2514 วิศวกรชาวอังกฤษ GNHousfield ได้พัฒนา CT เครื่องแรกและได้รับภาพ CT ของศีรษะเป็นครั้งแรก
2) อุปกรณ์ถ่ายภาพ CT ทั้งร่างกายได้รับการพัฒนาสำเร็จในปี พ.ศ. 2517
3) เทคโนโลยีสลิปริงปรากฏในปี พ.ศ. 2528
4) ในปีพ.ศ. 2532 CT แบบเกลียวหรือแบบเกลียว (CT แบบเกลียวหรือแบบเกลียว) ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยอาศัยเทคโนโลยีแหวนสลิป และโหมดการสแกน CT แบบสุ่มตัวอย่างสองมิติแบบดั้งเดิมได้รับการพัฒนาเป็นการสุ่มตัวอย่างสามมิติ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนา CT
5) ในปี พ.ศ. 2535 บริษัท ELSCINT ของประเทศอิสราเอลได้พัฒนา CT แบบเกลียวสองชั้นได้สำเร็จ โดยเป็นผู้นำในการนำเทคโนโลยีเครื่องตรวจจับแบบสองแถวมาใช้ ซึ่งทำให้หลอดเอกซเรย์และเครื่องตรวจจับสามารถหมุนได้หนึ่งสัปดาห์เพื่อให้ได้ภาพสองภาพ ซึ่งสร้างบรรทัดฐานสำหรับการสแกนแบบเกลียวหลายชั้น
6) ในการประชุมประจำปีของ North American Radiological Society ที่จัดขึ้นในเมืองชิคาโกเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2541 บริษัททั้ง 4 แห่งได้จัดแสดง CT แบบมัลติสไลซ์ (MSCT) พร้อมๆ กัน ซึ่งทำให้หลอดเอกซเรย์แบบแร็คหมุนรอบร่างกายมนุษย์เพื่อให้ได้ภาพตัดขวางหลายภาพในเวลาเดียวกัน ช่วยปรับปรุงความเร็วในการสแกนได้อย่างมาก
7) การเปิดตัว 64-slice spiral CT ในปี 2004 หรือที่เรียกว่า volumetric CT ก่อให้เกิดยุคใหม่ของการถ่ายภาพข้อมูลแบบปริมาตร
8) ในปี พ.ศ. 2548 ประสบความสำเร็จในการพัฒนา Dual Source CT (DSCT) โดยใช้ระบบหลอดเอกซเรย์ 2 ชุด และเครื่องตรวจจับ 2 ชุด เพื่อรวบรวมข้อมูลเพื่อให้ได้การรวบรวมข้อมูลแบบเซกเตอร์เดียว ทำให้ความละเอียดของเวลาในการสแกนหัวใจดีขึ้นอย่างมาก
ลักษณะการสแกนของเครื่อง CT แต่ละรุ่น
เครื่องสแกน CT รุ่นแรกและรุ่นที่สองใช้โหมดการสแกนแบบหมุน/เลื่อน
เครื่องสแกน CT รุ่นที่ 3 สามารถสร้างภาพได้เพียงชั้นเดียวเนื่องจากมีโหมดการสแกนแบบหมุน/หมุนกลุ่มภาพ
เครื่องสแกน CT รุ่นที่ 4 เป็นโหมดการสแกนแบบหมุน/คงที่ โดยตัวตรวจจับจะกระจายเป็นวงแหวน และตัวตรวจจับจะไม่เคลื่อนที่ระหว่างการสแกน แต่จะมีเฉพาะท่อลูกบอลเท่านั้นที่เคลื่อนที่